DiveDNA ตอน ตะลุยอ่าวไทย
น้ำใสปิ๊งๆ (ภาค 3)
ไม่เบื่อเหรอไปดำน้ำบ่อยๆในที่ซ้ำๆ
คนรอบข้างมักจะถามผม ?
ไม่เบื่อหรอกครับ การที่เราได้ทำสิ่งที่รัก เป็นงาน
ผมว่าชีวิตนี้มีความสุขและโชคดีมากแล้วครับ
วันสุขสีฟ้าล้อหมุนออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่บ่ายต้นๆ
ตกเย็นย่ำ ค่ำมานั่งปร๋ออยู่ที่ร้านอาหารทะเลบรรยากาศ
รสชาดเยี่ยม แบบชาวบ้านๆ ในชุมพร อาหารค่ำผ่านพ้น
พุงปลิ้นพุงป่อง ตบท้ายด้วยน้ำแข็งใสในเมือง แฮ่ม !!
อร่อย !!
ทริปนี้ เราใช้บริการเรือ "โชคทวี"
เรือที่มีชื่อและมีความหมายดีๆ เรือปรับปรุงใหม่
ใหญ่ขึ้น เน้นความสะดวกสบาย และบริการที่ดีเหมือนเดิม
กัปตันสมบัติ
ควงพังงาเรือโชคทวีออกจากปากน้ำชุมพรตอนรุ่งสางเมื่อชาวคณะมาครบ
เรือมาจอดลอยลำก่อนเข้าจับทุ่นอยู่ที่ หินแพ
เราเริ่มเช็คไดฟ์กัน น้ำใสเหมือนเดิม กระแสเอื่อยๆ
ดำน้ำกันสบายอุราครับ
ครึ่งทางเราพบเต่าตนุนอนเอาก้นซุกทรายอยู่
ไม่รู้ว่ากำลังนั่งอึหรือหนาว แต่พอเห็นเราเข้าไปใกล้
มันก็กระพือขาบินลับหายไป แต่ข้างๆ กันนั้น Octopus
ตัวย่อมๆ ตัวหนึงกำลังคืบคลาน เอาหนวด
แตะพนังหินพยายามจะมุดเข้ารู ทั้งคนและ Octopus
ต่างกลัวซึ่งกันและกัน ต่างจดๆ จ้องๆ
แต่เราก็จับ(ภาพ)มันได้ด้วยกล้องถ่ายภาพใต้น้ำ หลาย
Shot ทีเดียวครับ โดยรอบ น้ำใสๆ ปลาเยอะเหมือนเดิมครับ
กองชุมพร (Chumporn Pinnacle)
เราจะมาล่าฉลามกันครับ
ฉลามที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าเป็น Grey Reef
Shark หรือ Bull Shark
กันแน่ แต่ที่แน่ๆ พวกมันตัวอ้วนจ้ำม่ำเชียวครับ
(ไม่รู้พวกมันคิดเหมือนเราหรือเปล่า
ว่าพวกเราก็อ้วนจ้ำม่ำ เหมือนกัน อิอิ) ว่ายเวียนไปมา
น่าเสียวไส้ ก็ที่ความลึกและความขุ่นขนาดนั้น
ไม่รู้พวกมันจะวนมาด้านไหน เสียวว้อยละครับ !!
ที่กองตุ้งกู (South West Pinnacle)
พวกเราลอยตัวรอยักษ์ใหญ่ ใจดี พี่ฉลามวาฬ
แต่ไม่มาให้เห็นเงาเลยครับ
เลยได้แต่ตีฟินดูดอกไม้ทะเล(Sea Anemone)
ปลาการ์ตูนอินเดียนแดง ปู ฝูงปลา
และแหงนหน้าไปด้านบนและนอกกอง เป็นระยะๆ
เผื่อจะมีเงาดำๆ ใหญ่ๆ โฉบมาบ้าง
ตกค่ำไนท์ไดฟ์อ่าวลึก
เราเจอกระเบนจุดฟ้านับสิบตัว ว่ายไปมาหาอาหาร
และปูนานาชนิดนับได้ร่วม 20 ตัว ทั้งเดินทั้งแอบ
ชูกล้ามขู่นักดำน้ำไม่ให้เข้าใกล้ ทันใดนั้น Batteries
ในกล้องก็ดับวูบลง แป่ว !! แบตหมด ซวยละซิตู
เพราะจากประสบการณ์ เมื่อไม่ได้เอากล้องลงน้ำ หรือ
แบตหมด เรามักจะเจออะไรดีๆ เสมอ อิอิ
ที่พื้นทราย หนอนตัวแบนสีสวย ลายแปลกไม่เคยเห็นมาก่อน
แผ่ตัวนอนเยาะเย้ย นั่นๆ ปูมะพร้าว
หรือปูเสฉวนยักษ์(Hermit Crab) เดินอาดๆ เข้ามาข้างๆ
ตูว่าแล้ว ผมนึกในใจ
คราวนี้ไนท์ไดฟ์เลยไม่มีรูปมาให้ชมครับ
วันรุ่งเช้า เรือสัญชาติไทยแทบทุกลำ ไม่ว่า เรือคูน
สคูบ้าเน๊ต ฐาปนา จอดลอยลำโดยพร้อมเพรียงกันที่หินใบ
(Sail Rock) แต่ละลำหมุนเวียนกันลงครับ
น้ำที่หินใบไม่ใสครับวันนี้
แต่ฝูงปลามงยังคงเยอะเหมือนเดิม
ก่อนขึ้นเราลอดปล่อง(Chimney)
เอาฤกษ์เอาชัยอีกครั้งครับ เผื่อจะเจอของดี ของใหญ่
เรากลับมาที่กองชุมพร(Chumporn Pinnacle)
ตอนเกือบเที่ยงอีกครั้ง มีเรือดำน้ำจากเกาะเต่า
จอดอยู่ลำเดียวเท่านั้น ลุ้นอีกครั้งของเราที่นี่ครับ
เราทิ้งตัวดิ่งลงสู่ผืนน้ำเบื้องล่าง
มุ่งหน้าไปที่ฐานกองนอก
เจ้าอ้วนพีฉลามเจ้าเดิมโฉบมาทักทาย
ให้พอเสียวสันหลังและปลายฟิน
จากนั้นผมไต่ระดับขึ้นมา
พร้อมทั้ง วนรอบๆ กองชุมพร ฝูงปลาหูช้าง(ฺBat Fish)
ปลารับแขก ลอยเรี่ยเหนือกอดอกไม้ทะเล
พร้อมทั้งทำความสะอาดตัวเองโดยเอาสีข้างถูกับกอดอกไม้ทะเล
ดูแล้วหายคันดีแหะ !!
ก่อนปิดท้ายของทริปนี้ เราลุ้นครั้งสุดท้ายกันที่หินหลักง่าม
ใกล้ฝั่งจังหวัดชุมพร ตรงกับหาดทุ่งวัวแล่น เราเฝ้ารอ
"ฉลามวาฬ" กันครับ
เพราะพวกเขาก็เข้ามาที่นี่บ่อยเหมือนกัน
ที่หน้าหินหลักง่าม ทุ่นจอดเรือหายไปครับ
เรือไม่ได้จอดผูกทุ่น ทำให้พวกเราต้องโดดลงน้ำ( Live
Entry)กันเมื่อกัปตันวนเรือไปส่ง น้ำใสมากครับ
และไม่มีกระแสเลย ดำสบายมากครับ ปะการังดำ
ฝูงปลานับพัน ลอยตัวกินอาหารกันอย่างสบายใจเฉิบ
เมื่อวนกลับมาที่จุดปล่อยตัว ผมเพิ่งเห็นว่า
ทุ่นประจำหินหลักง่าม ติดซอกหินปะการังอยู่
แจ้งเจ้าถิ่นไปแล้วครับ เดี๋ยวคงไปเอาออก
กัปตันสมบัติ
พาเรือโชคทวีเลียดเลาะกลับเข้าคลองปากน้ำชุมพรตอนเย็น
พระอาทิตย์เริ่มลับฟ้า
และแล้ว เรือก็จอดสนิทที่ท่าเรือท่ายาง ผมขนของขึ้นรถ
สตาร์ทเครื่อง มุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ
เจอกันใหม่อีกสามอาทิตย์หน้าครับ กับ DiveDNA :
Turtle Island No. 4 เกาะเต่าของผม กรกฎาคม
กับเรือคาบาน่า MV1 โปรดติดตามชมครับ
|