จากการแพลนล่วงหน้านานนับเดือน นกแอร์เหินฟ้าลงหาดใหญ่ ฝนยังคงตกพรำๆ เพื่อนนักดำน้ำของผมมารับที่สนามบิน จากนั้นเราก็ปุเลงๆ วิ่งเข้าไปหาอะไรกินกันในตัวเมืองหาดใหญ่แถวๆ ตลาดกิมหยง อาหารจานเดียวกันคนละจาน ตบท้ายด้วยโรตี(น่ากินมะ) แฮ่ม................. อร่อย

จากนั้นเรามุ่งหน้าสู่ท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูลกันตอนย่ำค่ำ เจ้าหน้าที่เรือ และ ไดฟ์ลีดเดอร์ เข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง

เมื่อคณะใหญ่มาถึง จัดแจงเข้าห้องแล้วนอนพักผ่อนเอาแรงกัน เรือออกจากท่าวิ่งตรงสู่หมู่เกาะตะรุเตา
ล้างหน้า แปรงฟัน รองท้องด้วยกาแฟ ขนมปัง

เราเช็คไดฟ์กันที่บริเวณหมู่เกาะตะรุเตา
ร่องจาบัง ก็ยังคงเป็นร่องจาบังอยู่ คือ ยังบังไม่มิด มันจะบังแต่ไม่บัง กระแสน้ำยังคงเหมียนเดิม
ดอกไม้ทะเล หลากสีสัน ที่โคนทุ่น มีชื่อเสียงเรื่องความงดงามของปะการัง 7 สี อยากรู้ว่ายังอยู่ไหม ต้องมาดูกับตาตัวเอง

หินแปดไมล์ ผมเคยเจอ Leopard shark ครั้งแรกในชีวิตการดำน้ำที่นี่ ครั้งนี้ ผมภาวนาให้เจอ และแล้วฝันของผมก็เป็นจริง เนื่องจากเป็นช่วงเช้า กระแสน้ำยังคงมีอยู่ หลายๆ คนปลิวตามกระแสน้ำ Leopard ตัวประมาณเมตรครึ่งว่ายมาทางผม ก่อนที่จะเบนตัวออกสู่ทะเลลึกไป

ก่อนขึ้นเรือ Devil Ray ว่ายมาปรากฏโฉมให้เห็นถึง 3 ตัว รูปร่างหน้าตา ขนาด คล้ายกับแมนต้าแต่ปากของพวกเค้าออกแหลมๆ ตรงๆ ไม่โบกพลิ้วเหมือนแมนต้า

ที่จาบังน้อยคืนนั้น เราเจอ มอเรย์ด่างสีเหลืองเกือบ สิบตัว ปลาหมึกกระดอง ปูขน ปูเสฉวนตัวใหญ่มาก ปูแต่งตัว(สงสัยจะแต่งตัวเตรียมไปงานราตรีสโมสร) 2 ตัว

จากนั้นเราไปเที่ยวต่างประเทศกันที่ เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซียครับ
เราเข้าไปเทียบท่าที่ท่าเรือยอร์ช จากนั้นก็เริ่มยุทธการ Day Tour กัน DNA ของนักช๊อปชาวไทยไม่พลาดอยู่แล้วกับสินค้าปลอดภาษี ไม่ว่า ช็อกโกแล๊ต สุรา Red , black หรือ Green สารพัดเบียร์ เช่น เบียร์ อาซาฮี ไฮเนเก่น น้ำหอม ของใช้ โอ๊ย!! สารพัดครับ ไปช๊อปกันเองละกัน

ขอบอกว่าราคาถูกกว่าเมืองไทยมากครับ หากใครหัวใสขนเข้ามาขาย แป็ปเดียวก็ได้เงินคืนค่าทริปแล้วครับ อิอิ

รุ่งเช้าเราต่อกันด้วย หินม่วง หินแดง ยังคงมีมนต์ขลัง แมนต้า 1 ตัว หางสั้น ว่ายไป-มา ตลอด ขยับปากขย้อนแพลงก์ตอนเข้าปาก งับ งับ หินม่วง น้ำค่อนข้างขุ่น แต่ พี่แมน น้องแมน 2 ตัว ว่ายวนทั้งบนและล่าง ถ้ามาอีกตัวคงถูกโต๊ดแน่นอน

เราตัดสินใจบ่ายหน้ามาหมู่เกาะห้า น่านน้ำทะเลตรัง-กระบี่ เต่า ปลาหมึก Octopus ตัวเขื่อง พยายามจะมุดหนี แต่ก็ไม่พ้นเลนส์กล้อง

ที่เกาะห้าหนึ่ง ม้าน้ำสีเหลืองยังคงเล่นซ่อนแอบอยู่เหมือนเดิม แต่ไม่พ้นสายตาอันซุกซนของเราไปได้
ทากหลายๆ ชนิด มีให้ดูสำหรับคนช่าง หา มอเรย์ตัวจ้อย แอบอยู่ในโพรง

night dive คืนนั้น Sting Ray นอนหมอบอยู่ในโพรงถ้ำ กุ้งตัวใหญ่ๆ( น่ากิน) ออกมาโชว์ตัวกันคึกคัก ปูอะไรไม่รู้ตัวใหญ่ๆ  แสงไฟฉายเราส่องไปโดน Ghost Pipe Fish คู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าว่าตัวเมียกำลังท้องอยู่ปลาหมึกกระดองยังว่ายพลิ้ว

วันต่อมาเรามุดถ้ำกันที่เกาะห้าใหญ่
บิดะนอก Leopard Shark ยังคง Confirmed

เกาะดอกไม้ ทากเปลือย ปลาหมอ และ มอเรย์ยักษ์ แอบอยู่ในถ้ำ ปักเป้ากล่องเหลือง ทั้งเล็ก ทั้งใหญ่ว่าย speed หนีนักดำน้ำ กุ้งมังกรตัวน้อย ชูหนวดดุกดิก

บันทึกหลังไมล์ ในวันสบายๆ กับเรือ ฟ้าใส

• เรือฟ้าใสเป็นเรือนำเข้าครับ สภาพเรือภายนอกอาจจะไม่ใหญ่โตนัก แต่ภายในใจของเจ้าของเรืออย่างพี่ขวัญนั้นใหญ่เกินบรรยาย
• ดำน้ำกันสบายๆ อยากจะดำตรงนู้น ลงตรงนี้ ไปตรงนั้น ปรับเปลี่ยนอะไรได้ตามใจเรา
  "ให้พวกน้องๆ มีความสุข พี่ก็พอใจแล้ว" เป็นคำพูดของพี่สาวใจนักเลงของเรา
• อาหารการกินเต็มที่ เรียกได้ว่า กิน กิน กิน อิ่มมาก อิ่มหนำ สำราญมาก
• ลองมาดูตัวอย่างรายการอาหารกัน (อย่าน้ำลายไหลล่ะ....)  ปลาสดๆ ปลาหมึกสดๆ จากเรือประมงรอบข้าง
  • ยามเช้ามี ข้าวต้มทะเล ปลา กุ้ง หมึก ไม่ใช่วิญญาณนะครับ เป็นชิ้นๆ หย่ายๆ
  • มื้ออื่นๆ อาทิ ปลาทูทอด น้ำพริก น้ำพริกไข่ปู ผักสด ผักลวก ปลาทรายทอดขมิ้น
    ปูนึ่ง กุ้งชุบแป้งทอด ห่อหมกทะเล
    แกงส้มปลากระพง ซี่โครงหมูตุ๋นเห็ดหอม
    ผลไม้ แพนเค้กกล้วยหอม
    เอาแค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวน้ำย่อยจะกัดกระเพาะเสียก่อน
  • ของกินเล่น ขนม นมเนย ขบเคี้ยว ปลาฉิ้งฉ้าง เอาไว้เคี้ยวเล่นเพิ่มแคลเซียมให้กระดูกและฟัน
  • เครื่องดื่มเกลือแร่ นมถั่วเหลือง น้ำอัดลม น้ำเปล่า และสารพัด

  เรียกว่ากินกันให้ตายไปข้างหนึ่งเลย

• ข้อมูลของเรือ
  • จำนวนนักดำน้ำ 20 คน
  • ผ้าเช็ดตัวสะอาด มีพร้อมให้เราทุกคน
  • ที่นอนกว้างขวางนอนสบาย พร้อมผ้านวมห่ม อุ่นๆ และตู้เก็บของในห้อง
  • ไฟฟ้า กลางวันก็เปิด สามารถแอบไปงีบพร้อมแอร์เย็นฉ่ำได้ตลอดเวลา
  • น้ำจืด 14,000 ลิตร
  • ความเร็วเรือ 10 Knot แต่เวลาวิ่ง สบายๆ ชิลๆ
  • เครื่องยนต์ Hino 380 V8 Turbo
  • Dinghy 1 ลำ
  • พนักงาน เป็นคนพื้นที่ ที่พร้อมเต็มใจให้บริการ

อ่านจบแล้ว อย่ามัวแต่จินตนาการและนึกภาพตาม ไปดำน้ำกันดีกว่า