อยากเรียนดำน้ำ แต่ไม่รู้อะไรเลย อ่านตรงนี้ก่อน !!!

เริ่มต้นเรียนดำน้ำด้วยหลักสูตร
Open Water Diver

เพิ่มพูนทักษะการดำน้ำ
Advanced Open Water
EFR
Rescue Diver
Dive Master

Bubble Maker
Seal Team
Discover Scuba Diving

อยากเรียนแบบส่วนตัว คลิก

ชมภาพห้องเรียน + สระว่ายน้ำ
DiveDNA.com บริการดำน้ำครบวงจร สอนดำน้ำตามมาตรฐาน PADI จัดทริปดำน้ำทั้ง Day Trip และ Liveaboard อ่าวไทย ชุมพร เกาะเต่า อันดามันเหนือ หมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลัน บอน ตาชัย ริเชลิว อันดามันใต้ตะรุเตา หินม่วง หินแดง พีพี
จำหน่ายและให้เช่าอุปกรณ์ในราคาสมเหตุผล

รับซ่อมและบำรุงรักษา
BCD Regulator และอื่นๆ

สอบถามข้อมูลและโปรโมชั่น
Mobile: 081 700 6700
e-Mail: divedna@hotmail.com

DiveDNA ตอน ตะลุยอ่าวไทย น้ำใสปิ๊งๆ (ภาคแรก)

ตั้งใจจะขียนเป็นไตรภาคหนะครับ เผื่อจะทำเงินแบบ Load of the ring บ้าง อิอิ

ปิดฤดูท่องเที่ยวดำน้ำทะเลอันดามันได้เกือบเดือน ดีเอ็นเอ(Divedna) ในตัวบอกว่า “ชีพจรลงฟิน”ได้แล้ว อันดามันไปไม่ได้ พัทยาแสมสารก็เพิ่งกลับมา แล้วจะไปไหนดีอะ นึกออกแล้ว!! ชุมพร เกาะเต่า อ่าวไทยใกล้ๆ แค่นี้ดีกว่า และครานี้ได้มีโอกาสไปกับเรือสคูบาเน็ต(MV Scubanet) สำหรับการตะลุยทริปแรกอ่าวไทยของผมในฤดูกาล 2550 นี้

รถบัสพาพวกเราไปถึงท่าเรือท่ายางจังหวัดชุมพรเกือบรุ่งสาง เข้าห้องคร่อกฟี้ได้งีบใหญ่ ตะวันแยงตา ทำให้ต้องลุกมาล้างหน้าแปรงฟัน ประกอบอุปกรณ์ดำน้ำและขึ้นไปหาโอวัลตินดื่มเพิ่มพลังยามเช้า

แผนตะลุยทริปนี้ เราแบ่งการดำน้ำคร่าวๆ ออกเป็น 3 ส่วนครับ ส่วนแรกแถวๆ หมู่เกาะชุมพร ซึ่งประกอบด้วย เกาะง่ามน้อย ง่ามใหญ่ หินหลักง่าม และหินแพ ส่วนที่สองคือ บริเวณโดยรอบเกาะเต่า เช่น กองหินชุมพร(Chumporn Pinnacle) หินขาว หินเขียว หินวง หรือรอบๆ เกาะนางยวน และส่วนสุดท้าย คือไดฟ์ไซต์ที่ออกห่างจากเกาะเต่าออกไปสักหน่อย เช่น กองตุ้งกู(South West Pinnacle) กงทรายแดง(Shark Island) และ หินใบ(Sail Rock)

และแล้วเราก็เริ่มต้นเช็คไดฟ์กันที่หินแพสำหรับวันแรกกันครับ ตามมาเลยครับ

เมื่อผมและกลุ่มดำดิ่งลงมาถึงพื้นใต้น้ำ น้ำไหลเอื่อยๆ เราเริ่มลัดเลาะกันตามแนวหิน สายตาผมก็พลันไปปะทะกับปลาดุกทะเล ทำไมหน้าตาเหมือนปลาดุกน้ำจืดเลยฟะ( ในใจนึกถึงปลาดุกย่าง ลาบ น้ำตก ส้มตำขึ้นมาตะหงิดๆ ) เมื่อมันเห็นผม มันก็แผล่ว มุดเข้าซอกหิน ผมก็ว่ายอ้อมตามมาอย่างไม่ลดละ พร้อมทั้งเล่น “จ๊ะเอ๋” กับมัน ตลอดไดฟ์นี้ผมเจอพวกมันร่วม 4-5 ตัวเชียวครับ เอ หรือว่าจะเป็นลางดี ที่ผมจะได้เจอปลาใหญ่หน้าตาคล้ายปลาดุกยักษ์ก็ไม่รู้ ไดฟ์นี้ไปกันชิลล์ๆ สบายๆ ครับ บริเวณลานหินมีทากเปลือย(Nudibranch)หลายแบบ สะใจคนชอบตัวเล็กตัวน้อย

ไดฟ์ถัดมาที่หินหลักง่าม ปกติที่โคนทุ่นเพื่อนบ้านครอบครัวปลาสิงโตของผมซึ่งในอดีตมักมารอต้อนรับอยู่เป็นประจำได้หายหน้าไปหมดแล้ว น้ำทะเลบริเวณโดยรอบขุ่นคลั่กๆ น่ากลัวหลง ผมพาลูกทีมเตะฟินลัดเลาะแนวหินไปเรื่อยๆ แล้วก็ถึงโค้งหักซอก ต้องเข้าโค้งกันแรงๆ ตีฟินกันสะบัด มิฉะนั้นจะหลุดโค้งได้ กระแสน้ำเริ่มแทงออก พวกเราลดระดับความสูงลงเรี่ยพื้น เพื่อลดแรงต้านน้ำ ทันใดนั้นชั่วพริบตา Oh my God !! สวย ขาว ใส อะไร เช่นนี้ ผมอุทานผ่าน Regulator อีกด้านหนึ่งของไดฟ์ไซต์นี้ เหมือนหนังคนละม้วนกับตอนลงครับ คือน้ำใสมากกกก ฝูงปลานานาชนิดลอยตัวกินอาหาร ดงปะการังดำแน่นขนัด สมบูรณ์ ดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนสะบัดตัวตามกระแสน้ำ เพลินดีครับมองออกไปข้างนอก ฝูงปลาสากบั้งดำขนาดฝูง 50 ตัวลอยอยู่กลางน้ำ รอเหยื่ออย่างใจเย็น ที่พื้นทากปุ่มเดินกระดื๊บๆ หาอาหารอยู่กระจัดกระจาย



ลมช่วงบ่ายเริ่มแรง คลื่นเริ่มมีหัวแตกระยิบๆ สีขาว เราเลยต้องจอดหลบลมกันแถวบริเวณเกาะง่าม เพื่อรอที่จะเดินทางไปสู่เกาะเต่า และหมายมั่นปั้นมือว่าจะเผด็จกองหินชุมพร(Chumporn Pinnacle)ให้ได้เป็นกลุ่มแรกยามรุ่งเช้า

รุ่งเช้าเราไปถึงกองหินชุมพรและจอดลอยลำเป็นลำแรกครับ แต่ได้ลงเป็นลำสุดท้าย อิอิ น้ำทะเลของกองชุมพรใสปิ๊งประมาณน้องๆ สิมิลัน แต่กระนั้นไดฟ์ไซต์นี้ ก็คราคร่ำไปด้วยนักดำน้ำทั้งหัวดำ หัวทอง กลายเป็นตลาดนัด บวกชุมชนแออัดใต้น้ำ เพราะนักดำน้ำทั่วเกาะเต่าชอบมาดำที่นี้ และจุดนี้ เป็นจุดที่พบฉลามวาฬบ่อยที่สุดจุดหนึ่งในเมืองไทย ที่สายทุ่นฝูงปลาหูช้าง(Batfish)ยังคงลอยตัวอยู่เป็นฝูง คอยขยับตัวทักทายนักดำน้ำทั้งตอนลงและขึ้น พร้อมทั้ง post ท่าเป็นแบบให้นักดำน้ำที่มีกล้องถ่ายรูปใต้น้ำได้ถ่ายพวกมัน มองออกไปข้างๆ และลึกๆ ฝูงปลานับพันลอยตัวรออวน เอ๊ย!! รออาหารเข้าปากกันอย่างสบายอารมณ์

ไดฟ์ต่อมาเราลัดเลาะมาที่อีกด้านหนึ่งของเกาะ กระแสน้ำบนผิวน้ำค่อนข้างแรง ผมพาลูกทีม ไต่เชือกลงไปโดยเร็ว พาถึงพื้นข้างล่าง ปลาปักหัวลอยอยู่เป็นคู่ นับได้ 4-6 ตัว พวกมันคือปลาใบมีดโกน(Shrimp fish) ลอยตัวไปมาตามกระแสน้ำข้างๆ กองหิน เต่ากระโฉบมาแว๊บ นึง ก่อนที่จะเร่งความเร็วออกสู่ทะเลลึก ทริปนี้เราเจอเต่ากันหลายตัวครับ ไม่เสียแรงที่มาเกาะเต่าจริงๆ

บริเวณไดฟ์ไซต์นี้ อุดมไปด้วย แส้ทะเลและหวีทะเลครับ ผมสบตากับเพื่อนเก่า คือ “กุ้งตัวยาว” สวัสดี เจอกันอีกแล้วนะ สบายดีนะ ขอถ่ายรูปหน่อยนะ เพื่อนๆ อยากเจอ เค้าไม่ว่าอะไรครับ แต่หมุนตัวหลบเนืองๆ คงอายหนะครับ

และแล้ว วันสุดท้ายของเราของทริปนี้ก็มาถึงครับ หินใบ(Sail Rock) เป็นจุดดำน้ำไดฟ์แรกของวันสุดท้าย เรามาถึงก่อนเพื่อนเรือลำอื่นเช่นเคย แต่ลงน้ำช้ากว่าพรรคพวกที่มาจากเรือคูณ อิอิ เราเจอเด็กชายน้ำใสมากครับ (ขาดแต่ลูกชิ้นจะอร่อยขึ้นเป็นกอง) เบื้องล่างระยะการมองเห็น(Visibility) สัก 30 เมตรได้ ฝูงปลาสากลอยตัว(เกือบ)เป็นวง ผมลอยตัวไปอยู่ข้างล่างฝูงของมัน มันขยับตัวหนีเป็นกลุ่ม จากนั้นผมเตะขาออกไปกองนอก มองหาเพื่อนอีกตัวนึง ไม่มีแหะ หายไปไหนน้า เจอแต่ปลาหมอทะเลยักษ์หลายตัว ว่ายหนีเข้าซอกหิน เมื่อพวกเราเคลื่อนขบวนผ่าน ฝูงปลามง ปลาทู ปลาข้างเหลือง โอ๊ย !! สารพัดปลาครับ เป็นพันๆ หมื่นๆ ตัว น้ำก็ใส ปลาก็เยอะ ดำไปดำมา นึกว่าอยู่ต่างประเทศ อิอิ

ทันใดนั้น คนชี้เป้าผมก็มาว่ายมาดึงเหนียงให้ผมหันหลังกลับ พร้อมทั้งทำมือชี้โบ๊ชี้เบ้ ว่าเจออะไรเข้าแล้ว ผมก็ว่ายกลับไปดูตามมารยาทอะครับ ทันใดนั้นเอง ว๊าววววว เจอแย๊วววว !! เพื่อนเก่า ปูครับปู หรือ Xeno Crab ที่ผมคิดว่าจะไม่เจอเค้าซะแล้วทริปนี้ หากไม่เจอคงเหมือนขาดอะไรไปซักอย่างนึง

หลังจากนั้นผมก็เตะฟินพาคณะทัวร์เข้าสู่ปล่องหฤรรษ์แห่งหินใบ หรือ Chimney ที่มีไม่กี่แห่งในเมืองไทย ลอดช่องเอาเคล็ดกันทั้งกลุ่ม ไดฟ์หน้าห้ามพลาดครับว่าเราเจออะไรหลังจากมุดปล่องนี้แล้ว

ก่อนสั่งลาเกาะเต่า เราจะลงไปแหวกว่ายน้ำใสๆ อีกไดฟ์นึงที่กองตุ้งกูหรือ South West Pinnacle เสียงโหวกเหวก ตะโกน ยาฮู้ วู้ปี้ ของฝรั่งดังขึ้น อะไรฟะ ผมนึกในใจ อยู่ๆ กระโดงของตัวอะไรบางอย่างก็โผล่เรี่ยผิวน้ำ เท่านั้นหล่ะครับยุติการบรีฟ(ฺBrief) ลงไปในบัดดล ทุกคนแต่งตัวเร็วประมาณทำลายสถิติโลกอย่างราบคาบ

ผมในฐานะหัวหมู่ทะลวงฟัน โดดนำไปก่อน(เช่นเคย) ไม่เห็นมีอะไรเลยแหะ เพื่อนๆ สมาชิกเริ่มตามลงมาสมทบ กับจนครบ เสียงนับกลุ่มนู้นกลุ่มนี้ ดังเซ็งแซ่ แล้วเสียงพระเอก เพื่อนร่วมทีมผมคนนึงตะโกนขึ้นมาว่า “มันอยู่ที่ตีน” ขออภัยสำหรับคำนี้ครับ เพราะมันไม่สุภาพ แต่คำๆนี้ทำให้ผมเห็นภาพปลารูปร่างเหมือนปลาดุกตัวใหญ่ใหญ่ยักษ์กำลังว่ายอยู่เบื้องล่างที่ปลายตีน(กบ)ของผม เสียงตะโกนของผมดังขึ้นจับใจความได้ว่า “จะรออะไร ตัวใครตัวมันว้อย” เท่านั้นแหละ ร้อยเมตรหญิงเดี่ยวชายเดี่ยว ก็โกลาหลลงสู่ใต้น้ำกันจ้าละหวั่น ใครเข้าเส้นชัยชนะเลิศเป็นคนแรกรู้มั๊ยครับ อิอิ อย่าเฉลยเลยครับ อายเค้า อิอิ

ความเร็วของผมกับเจ้าปลายักษ์ลายจุดแห่งท้องทะเล หรือ  “ฉลามวาฬ” เท่ากันครับ ผมว่ายคู่ขนานไปกับเค้าได้ชั่วครู่ ในใจผมคิดว่าอย่าว่ายตามเลย เดี๋ยวเค้าคงจะ u-turn กลับมาโชว์ตัวอีกรอบหนะ ก็เลยหยุด speed  ที่ไหนได้ เค้าไปแน่บเลยครับ เพราะมีคนเอามือไปแตะหาง หากใครได้อ่านเรื่องนี้อยู่ และบังเอิญได้เจอตัวอะไรก็แล้วแต่ อย่าไปแตะ หรือสัมผัสเค้านะครับ การสัมผัสของเรา อาจทำให้เค้าเกิดแผล ติดเชื้อโรค และตายไปในที่สุด และหากเราไม่แตะเค้า เค้าก็อาจจะวนกลับมาให้เราได้ยลโฉมอีกครั้งและอีกครั้งครับ

ตลอดไดฟ์นั้น อย่างอื่นไม่ต้องดูแล้วครับ รอดูฉลามวาฬกันอย่างเดียว แต่ก็(เหมือนจะ)ไร้วี่แววครับ

ท่ามกลางการปลงตกและเตรียมตัวขึ้น เสียงเคาะแท็งค์ แก๊งค์ๆๆๆๆ ดังถี่ ผมหมุนรอบตัวหาที่มาของเสียง เงาใหญ่ทะมึนเข้ามาใกล้ๆ แต่คราวนี้ ลอยอยู่ใกล้ๆ ผิวน้ำด้านบน ดู๊ ดู !! อยู่ข้างบน ก็ว่ายไปข้างล่าง พออยู่ข้างล่างก็ขึ้นไปข้างบน แต่ด้วยความสำนึกและคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเอง(และเพื่อนร่วมกลุ่ม) ทำให้ไม่สามารถว่ายขึ้นไปหามันด้วยความเร็วได้ เพราะไนโตรเจนในกระแสเลือดและปอดของเราอาจเกิดปัญหาได้ ผมได้แต่มองตามตาละห้อยปล่อยให้น้องฉลามวาฬลอยผ่านหัวไป

ไดฟ์บ่าย เราก็กลับจากเกาะเต่าด้วยการบรรลุภารกิจ เพราะเราเจอเจ้าเต่ากระตัวใหญ่ เอาขาหน้าเกาะปะการัง พร้อมเคี้ยวกร๊วบๆ อย่างไม่สนใจใคร ปลานกแก้วและสินสมุทรว่ายวนเวียนใกล้ๆ รอกินเศษอาหาร

มาเกาะเต่าได้เจอเต่า ได้เจอฉลามวาฬ ...  สบายใจแล้วครับ
แต่ยัง ... ยังครับ Mission ของผม กับอ่าวไทยในฤดูกาลนี้ ยังไม่จบ โปรดติดตามตอนต่อไปคร๊าบบบ!!