ผมก็เหมือนหลายๆ
คนล่ะครับที่มีโอกาสได้ลงไปอยู่ในโลกใต้ทะเลแล้วอยากมีรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
เพราะในแต่ละสถานที่ก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป
โดยเฉพาะเจ้าตัวแปลกๆ และไม่แปลกทั้งหลาย
ที่ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้เจอเค้าอีกมั้ย
หรือถ้าได้เจออีกครั้งจะจำหน้าได้รึเปล่าว่าเคยพบกันมาก่อน
อีกเหตุผลนึงก็เพื่อเอาไว้เตือนความจำด้วยว่าเราไปเจออะไรมาบ้าง
หนุ่มน้อยอย่างผมเป็นโรคความจำสั้นซะด้วย (โดยเฉพาะไปยืมเงินใครไว้บ้าง..ฮิฮิ)
ก็ได้พึ่งพารูปจากกล้องนี่แหละมาเขียน Log Book
แบบไม่ขาดตกบกพร่อง ที่สำคัญคือถ้าเจออะไรเด็ดๆ
ก็ยังมีหลักฐานไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย
เหมือนที่โบราณเค้าบอก "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น.สิบตาเห็นไม่เท่ายายฟันธง.."
น่านแหละคร้าบบบ. .
ข้อดีอีกอย่างของการมีกล้องคือเราจะสนุกกับการดำน้ำมากขึ้น
จากที่เคยเดินดูผ่านๆ ก็จะเริ่มมองหาสิ่งแปลกๆ
ใหม่มาเป็นนางแบบอยู่เรื่อย
จนแทบจะไม่อยากกลับขึ้นมากินข้าวกินปลากันเลยล่ะครับ
โดยส่วนตัวแล้วการเลือกกล้องเอาไว้ถ่ายรูปใต้น้ำซักตัวนี่เป็นเรื่องที่ยุ่งยากพอสมควร
เพราะผมเองก็เป็นคนประเภท "เช้าวุ่นวาย-สายตื่นเต้น-เย็นนั่งเศร้า"
คนนึงเหมือนกัน จะไม่ให้เป็นอย่างงั้นได้ยังไงล่ะครับ
ในเมื่อเราก็ไม่ใช่พวก "เป๋าตุง" ซะด้วย
วิธีการเลือกซื้อกล้องของผมอาจจะเหมือนหรือแตกต่างจากคนอื่น
เอาเป็นว่าเล่าสู่กันฟังก็แล้วกัน..
อันไหนดีก็เอาไว้ใช้ อันไหนร้ายก็เอาไว้ห้ามกันเอาเอง..
1. ค้นหาความรู้
เป็นเรื่องแรกที่ผมทำก่อนเลยเพราะผมเป็นคนชอบศึกษา (ไม่ใช่ชอบนักศึกษานะครับอย่าอ่านผิด)
เพราะจะทำให้รู้ว่าจะ "ตั้งคำถามยังไง"
ก่อนที่จะไปถามคนอื่น
เพราะถ้าเราเองยังไม่รู้ว่าจะถามอะไรแล้วมันจะได้คำตอบที่ถูกต้องรึเปล่า
หรือถ้าได้คำตอบที่ถูกต้องแล้ว
เราจะเข้าใจมั้ยว่ามันหมายถึงอะไร
บางครั้งการศึกษาด้วยตัวเองอาจจะนำมาซึ่งความงุนงงหนักเข้าไปใหญ่
โดยเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่คุณสาวๆ
ส่วนใหญ่เกลียดเข้าใส้
ถ้ายังไม่เคยใช้กล้องดิจิตอลผมขอแนะนำให้คุณอ่านหนังสือเกี่ยวกับพื้นฐานการใช้กล้องดิจิตอลธรรมดาๆ
ก่อน เอาแบบสีสวยๆ ตัวหนังสือใหญ่อ่านง่ายๆ
จะทำให้คุณไม่เบื่อและอ่านได้จบเล่มแบบไม่ต้องตื่นมาหลายรอบ
ตัวผมเองใช้วิธี Search ข้อมูลใน Internet โดยหาคำว่า
Underwater Photography หรือ Underwater Camera
รับรองว่าคุณจะเจอข้อมูลมากมายอ่านกันไม่หวาดไม่ไหว
ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาต่างด้าวกว่าจะอ่านจบก็ทำเอาไมเกรนขึ้น
ถ้าจะหาเว็บภาษาไทยก็เข้าไปในเว็บดำน้ำต่างๆ
แล้วเข้าไปดูกระทู้เก่าๆ
ที่มักจะมีถามตอบเรื่องเหล่านี้ไว้ในหัวข้อ Photo
Gallery เป็นต้น
ถ้าไม่รู้จะไปไหนก็มาที่นี่ก็ได้ครับแต่ก็จะเป็นบท
ความแบบเต่าๆ เล็กน้อย ประเภทกล้องตกรุ่นไป 3
ครั้งแล้วยังซื้อกล้องไม่ได้ซะที..(ล้อเล่นน่ะ!!!)
Tips ที่สำคัญที่สุดคือผมจะดูว่าใน web
เค้าใช้กล้องยี่ห้อไหนและรุ่นไหนมากที่สุดในประเทศไทยและในโลก
เป็นสัจธรรมครับกล้องรุ่นที่มีคนใช้มากที่สุดจะมี
หนึ่ง -
ข้อมูลให้อ่านและมีคนให้ถามมากที่สุด
สอง -มีอุปกรณ์เสริมมากที่สุด
สาม -
มีอะไหล่ให้เปลี่ยนมากที่สุด สี่
- มีของมือสองมากที่สุด
ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผมเลือก "Olympus"
ครับเพราะมีคุณสมบัติที่สุดๆ ครบ 4 ข้อ
แถมรูปที่เค้าแปะๆ กันไว้ใน web ก็สวยงามสุดๆ
ผมจึงไม่ลังเลที่จะเลือกโดยยอมเสี่ยงกับชื่อเสียงข้อที่
5 คือน้ำเข้ากล้องมากที่สุด (ดูดวงแล้วว่าน่าจะแคล้วคลาด)
ออกตัวนิดนึงว่าไม่ได้เชียร์ยี่ห้อนี้นะเพราะหลังๆ
เจ้าอื่นก็ออกมาคุณภาพคับเฮ้าส์ซิ่งเหมือนกัน
เอาไว้อ่านบททดสอบในคราวหลังๆ ก็แล้วกันครับ
2.
ดูเงินในกระเป๋า
มีคนมาปรึกษาผมอยู่บ่อยๆ ว่าจะซื้อ Notebook รุ่นไหนดี
ผมมักจะถามกลับไปว่ามีงบอยู่เท่าไหร่?
เพราะบ่อยครั้งที่ผมบรรยายความเก่งกาจของ Notebook
ไปครึ่งชั่วโมง แต่พอรู้ราคาก็วิ่งหนีซะอย่างงั้น
มีอย่างที่ไหนจะเอาแบบเร็วๆ แรงๆ เล็กๆ หรูๆ
แต่พกมาแค่สองหมื่นห้า
พ่อตาที่ไหนเค้าจะยกนางงามให้ล่ะครับ
ดังนั้นเราจึงต้องตั้งงบประมาณก่อนครับ
จะได้ตัดกล้องที่เกินงบประมาณทิ้งไป
เพื่อลดระยะเวลาการพิจารณา
ถ้าตั้งต่ำก็มีให้เลือกน้อยหรือไม่มีผลิต
แต่ถ้าตั้งสมเหตุผลก็จะมีให้เลือกเยอะขึ้นตามคำที่ว่า
"มีเงินก็ได้กล้อง..มีทองก็ได้นางแบบ"
สำหรับผมถือคติว่า "ซื้อทั้งทีให้ถูกใจเพราะเวลาเปลี่ยนใจแล้วมันไม่ถูก"
หรือเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายนั่นเองครับ
เพราะของที่เราซื้อมาแล้วราคามันจะตกทันที
เวลาเราขายต่อเป็นของมือสองแล้วไปซื้อใหม่ก็ต้องจ่ายแพงกว่าอย่างน้อยก็ต้องเกิน
100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน
ดังนั้นบางอย่างผมจะไม่ขี้เหนียวครับยอมเจ็บทีเดียวแล้วใช้ยาวเลยดีกว่า
ดังนั้นผมจะรอเก็บเงินให้ถึงค่าสินสอดซะก่อนแล้วไปสู่ขอทีเดียว
แต่บางทีก็ต้องรีบไปสู่ขอเหมือนกันครับเพราะเจ้าบ่าวก็รอเสียบกันเป็นแถวเหมือนกันเพราะถ้าเจอเหตุการณ์ของขาดตลาดแบบกะทันหันขึ้นมาเดี๋ยวก็อดถ่ายรูปกันพอดี
ถ้าถามว่าควรจะตั้งงบประมาณเท่าไหร่กันดี
ดูจากราคากล้องดิจิตอลแบบคอมแพ็คกับเฮ้าส์ซิ่งในปัจจุบัน
(ก.ค. 2549) ผมว่าตั้งงบประมาณที่ 20,000 – 25,000 บาท
ก็ไม่อึดอัดที่จะซื้อหามาใช้ถ่ายแบบสนุกๆ
แล้วล่ะครับ
3.
เข้าหาคนใช้
ฮั่นแน่คิดกันไปถึงไหนแล้วคุณผู้ชาย..
ถ้าแปลงกายเป็นแมลงสาบไปอยู่ที่ห้องนางแจ๋วอย่าได้บอกว่าผมแนะนำเชียว..
จริงๆ
แล้วผมหมายถึงการเข้าไปพูดคุยกับคนที่เค้าใช้กล้องถ่ายรูปใต้น้ำอยู่ต่างหาก
เชื่อเถอะว่าทุกทริปดำน้ำที่คุณไปจะต้องมีกล้องหรืออุปกรณ์ที่คุณฝันใฝ่ว่าจะซื้อมาใช้ให้เห็นแน่นอน
คราวนี้ก็อยู่ที่ความกล้าของคุณแล้ว ส่วนใหญ่นักดำน้ำจะเป็นคนที่ใจดีมีอัธยาศัยดีทุกคน
ผมมักจะแลกเปลี่ยนความรู้กับช่างกล้องเหล่านี้และได้รู้ในบางอย่างที่เราไม่รู้
แต่เราก็ควรจะศึกษาข้อมูลมาพอให้ตั้งคำถามเก๋ๆ
เพื่อสร้างความประทับใจ ไม่ใช่เข้าไปทักอะไรแบบ "อุ้ย..กล้องเสี่ยวจังค่ะ..ราคาแพงมั้ยเนี่ย!!"
หรือ "พี่เคยน้ำเข้ากล้องมั้ยคะ?" แทนที่จะได้ข้อมูลเลยได้เรื่องมาแทน
แต่ถ้าไม่กล้าคุยกับคนแปลกหน้าเพราะคุณแม่ขอร้องก็ถามไต้ซือสอนดำน้ำของตัวเองนั่นแหละ
เพราะส่วนใหญ่ก็ถ่ายรูปใต้น้ำกันเก่งอยู่แล้วแถมถ้าอ้อนมากๆ
อาจจะหาซื้อกล้องให้แบบเราไม่ต้องเดินให้เมื่อยตุ้ม
ส่วนคุณผู้ชายอาจจะลำบากหน่อยในการเข้าไปพูดคุย
แต่เชื่อผมเถอะรอยยิ้มและถ้อยคำที่สุภาพช่วยคุณได้
ต่อไปถ้าซี้แล้วจะใช้ภาษาพ่อขุนเพื่อล้วงข้อมูลให้ถึงใส้ติ่งก็แล้วแต่คุณแล้วล่ะคราวนี้
4.
ไหว้วานชาวบ้าน
นกไม่มีขน.. คนไม่มีเพื่อนบินสูงไม่ได้
จดจำเอาไว้ให้ขึ้นใจครับ
คนเราต้องพึ่งพาอาศัยกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่งดังนั้นหากมีเพื่อนเยอะคุณก็จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องและราคาสมเหตุผล
บางครั้งเราต้องยอมเจ็บตัวบ้างเพื่อจะได้กลายเป็นลูกค้าประจำ
จากลูกค้าประจำเราก็จะกลายเป็นเพื่อน
ซึ่งเพื่อนย่อมไม่ฟันเพื่อนถ้าไม่เผลอ พูดเล่นๆ
น่ะครับ แต่การที่เรามีเพื่อนอยู่ในหลายๆ
วงการเรามีโอกาสที่จะไหว้วานให้ช่วยหิ้วของมาจากเมืองนอกได้
ซึ่งแน่นอนว่าจะได้ของถูกกว่าหรือได้อุปกรณ์ที่ไม่มีขายอยู่ในประเทศ
แต่น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าครับหากเค้าขอความช่วยเหลือบ้างก็อย่าไปใจร้ายกันนัก
บางทีต้องมี give and get
กันบ้างและนอกจากที่เราจะได้ของราคาสมเหตุผลแล้ว
บรรดาข้อมูลเกี่ยวกับกล้องและการดำน้ำก็มักจะได้รับการเอื้อเฟื้อก่อนเสมอ
ดังนั้นมีเพื่อนเอาไว้ดีกว่าครับใช้ได้ทุกสังคมไม่ต้องเป็นแค่สังคมดำน้ำ
เป็นยังไงครับวิธีการเลือกซื้อกล้องถ่ายรูปใต้น้ำของผม
จำง่ายๆครับ
"ค้นหาความรู้.. ดูเงินในกระเป๋า.. เข้าหาคนใช้..
ไหว้วานชาวบ้าน"
ถ้าอ่านแล้วยังรู้สึกว่าไม่เวิร์ค
ผมขอแนะนำท่าไม้ตายสุดท้ายนั่นคือบอกเพื่อนไปตรงๆ
เลยว่า "ตูเชื่อเมิง..ตูมีอยู่สองหมื่นห้า..เมิงจัดให้ตู..แล้วสอนตูด้วย”
เท่านั้นแหละ แต่ต้องแน่ใจว่าเก่งจริงๆ
นะครับ
ไม่งั้นอาจจะได้กล้องถ่ายรูปใส่ถุงพลาสติกมัดหนังสติ้กมา
3 เส้น ถึงตอนนั้นก็ตัวใครตัวมันก็แล้วกันผมไม่เกี่ยว...ฮิฮิ
May the fin be with you ...
...10LOR ... |